เลือกหมอนอย่างไรให้นอนสบาย และดีต่อสุขภาพ

การนอนหลับที่ดี เริ่มต้นจากหมอนที่ใช่ ไม่ใช่แค่ฟูกหรือที่นอนเท่านั้นที่มีผลต่อคุณภาพการนอน หมอนที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และอาการนอนหลับไม่สนิท โดยเฉพาะในยุคที่หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ การเลือกใช้ “หมอนเพื่อสุขภาพ” กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยม

ประเภทของหมอนเพื่อสุขภาพที่ควรรู้

หมอนเมมโมรี่โฟม (Memory Foam)
ช่วยรองรับสรีระตามรูปศีรษะและต้นคอ ลดแรงกดทับ เหมาะสำหรับคนที่มีอาการปวดคอเรื้อรัง
หมอนยางพารา (Latex Pillow)
ยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี ป้องกันไรฝุ่น ทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้
หมอนขนเป็ด/ขนห่าน (Feather/Down Pillow)
ให้ความนุ่มและหรูหรา เหมาะสำหรับคนที่ชอบหมอนนุ่มๆ แต่ต้องเลือกแบบที่รองรับคอได้ดี
หมอนป้องกันกรน/หมอนต้านการนอนกรน
ออกแบบมาให้ศีรษะอยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดการอุดกั้นทางเดินหายใจ

วิธีเลือกหมอนเพื่อสุขภาพให้เหมาะกับคุณ

ท่านอน
- นอนหงาย ควรใช้หมอนสูงปานกลาง รองรับส่วนโค้งของคอได้ดี
- นอนตะแคง ควรใช้หมอนที่มีความหนาเพื่อให้คอและกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง
- นอนคว่ำ ควรใช้หมอนที่นุ่มและแบนที่สุด หรือไม่ใช้เลย
วัสดุภายในหมอน
เลือกวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ระบายอากาศได้ดี และสามารถรองรับน้ำหนักได้เหมาะสม
การระบายอากาศ
หมอนควรมีช่องระบายอากาศ หรือทำจากวัสดุที่ช่วยลดความอับชื้น
ขนาดของหมอน
ขนาดมาตรฐานคือ 50×70 ซม. แต่ควรเลือกขนาดให้เหมาะกับขนาดเตียงและสรีระ

🛏️ 10 อันดับหมอนเพื่อสุขภาพขายดี

ประโยชน์ของการใช้หมอนเพื่อสุขภาพ

ลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่
นอนหลับลึกขึ้น พักผ่อนได้เต็มที่
ช่วยให้การหายใจดีขึ้น (โดยเฉพาะคนที่มีปัญหากรน)
ป้องกันไรฝุ่น ลดภูมิแพ้
ช่วยเรื่องการจัดแนวกระดูกสันหลัง

ข้อควรระวังในการเลือกหมอน

หลีกเลี่ยงหมอนที่นุ่มหรือแข็งเกินไป
ไม่ควรใช้หมอนที่ใช้งานมานานเกิน 1-2 ปี
ควรเปลี่ยนปลอกหมอนและทำความสะอาดเป็นประจำ

Our Score

Post Views: 42

Spread the love